วันพฤหัสบดีที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๖๗ เวลา ๐๘.๓๐ น. นายกฤตพจน์ ไชโย สหกรณ์จังหวัดลพบุรี
พร้อมด้วย นายศักดิ์เสรี สีแดง เจ้าพนักงานส่งเสริมสหกรณ์อาวุโส รวมทั้งข้าราชการตุลาการ ทหาร ตำรวจ หัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและพสกนิกรชาวจังหวัดลพบุรีทุกหมู่เหล่า ร่วมพิธีวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยมี นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะและจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย นำส่วนราชการอ่านถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติคุณสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เบื้องหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทั้งนี้เพื่อเป็นการถวายความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ที่ทรงพระปรีชาสามารถ กล้าหาญ เด็ดเดี่ยว สร้างความเป็นเอกราชให้แก่ชาติไทย ณ หอประชุมอำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี
โดยคณะรัฐมนตรีมีมติ เมื่อวันที่ ๒๙ เดือนพฤศจิกายน ๒๕๔๘ กำหนดวันสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นวันรัฐพิธีและกำหนดให้วันที่ ๒๕ เมษายน ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งพระราชประวัติของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชนั้น ทรงพระราชสมภพ ณ พระราชวังจันท์ เมื่อปีพุทธศักราช ๒๐๙๘ ทรงเป็นกษัตริย์องค์ที่ ๒ แห่งราชวงศ์สุโขทัย ทรงเป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระมหาธรรมราชาเมื่อมีพระชนมายุได้ ๙ พรรษา พระเจ้าบุเรงนอง กษัตริย์พม่า ทรงขอไปเลี้ยงเป็นพระราชบุตรบุญธรรมเพื่อเป็นตัวประกันที่หงสาวดี ซึ่งในขณะนั้นกรุงศรีอยุธยาตกอยู่ในความปกครองของพม่า จนพระชนมายุได้ ๑๕ พรรษา จึงเสด็จกลับกรุงศรีอยุธยา เมื่อวันขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๖ ปีวอก พ.ศ. ๒๑๒๗ ทรงหลั่งน้ำทักษิโณทก ณ เมืองแครง ประกาศอิสรภาพของชาติไทยโดยไม่ขึ้นกับพม่าอีกต่อไปและทรงขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ครองกรุงศรีอยุธยาเมื่อปี พ.ศ. ๒๑๓๓ ในรัชสมัยของพระองค์ทรงกระทำสงครามขยายพระราชอาณาจักรไทย ให้แผ่ไพศาลไปในจตุรทิศ ทรงเป็นกษัตริย์นักรบผู้ยิ่งใหญ่และกล้าหาญ ทรงกระทำยุทธหัตถีมีชัยชนะต่อพระมหาอุปราชแก่กรุงหงสาวดี เมื่อปี พ.ศ. ๒๑๓๕ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เสด็จสวรรคตเมื่อปี พ.ศ. ๒๑๔๘ ขณะพระชนมายุได้ ๕๐ พรรษา รวมเวลาที่ทรงขึ้นครองราชย์นาน ๑๕ ปี